ภาพยนตร์ที่ 'อินเตอร์สเตลลาร์' รัก '2001: อวกาศิระยะสุดท้าย'

ภาพยนตร์ไซไฟ ‘อินเตอร์สเตลลาร์’ ของคริสโตเฟอร์ โนแลน ที่เข้าฉายในปี 2014 ถึงแม้จะผ่านมา 10 ปีแล้วก็ยังคงถูกพูดถึงว่าเป็นภาพยนตร์ที่สร้างได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะภาพหลุมดำที่ปรากฏในภาพยนตร์เรื่องนี้ กลายเป็นที่พูดถึงอีกครั้งในช่วงปี 2022 เนื่องจากหลุมดำที่ถ่ายภาพได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์มนุษยชาติโดยใช้กล้องโทรทรรศน์วิทยุ นั้น **คล้ายคลึง**กับหลุมดำในภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างมาก

จินตนาการที่ก้าวล้ำกว่าเทคโนโลยีของมนุษย์มักจะสร้างความประหลาดใจเช่นนี้ให้เราได้เห็นเสมอ ภาพยนตร์ ‘2001 สเปซ ออดิสซีย์’(2001: A Space Odyssey, 1968) ที่เข้าฉายในปี 1968 ก็เป็นภาพยนตร์ที่ถูกพูดถึงด้วยเหตุผลคล้ายๆ กัน ปี 1968 นั้นยังเป็นเวลา **ก่อนที่มนุษย์จะลงจอดบนดวงจันทร์เป็นครั้งแรกถึง 1 ปี** แต่ภาพพื้นผิวดวงจันทร์ที่ปรากฏในภาพยนตร์เรื่องนี้กลับ **คล้ายคลึง**กับภาพที่นีล อาร์มสตรองถ่ายไว้พอสมควร นอกจากดวงจันทร์แล้ว ยานอวกาศ ดาวพฤหัสบดี และองค์ประกอบอื่นๆ อีกมากมายในภาพยนตร์ปี 1968 เรื่องนี้ **ดูสมจริงราวกับของจริงจนแทบไม่อยากเชื่อ**

ต่อมาภาพยนตร์เรื่องนี้ได้มีอิทธิพลต่อผู้กำกับภาพยนตร์รุ่นใหม่จำนวนมากที่ในขณะนั้นยังเป็นเพียงวัยรุ่น โดยเฉพาะ ‘HAL 9000’(A,k,a ‘ฮัล’) ปัญญาประดิษฐ์ ที่ปรากฏในเรื่อง ถือเป็นต้นแบบของตัวละครปัญญาประดิษฐ์มากมายที่ปรากฏตามมาในภายหลัง ฮัล ที่ติดตั้งอยู่บนยานอวกาศ ‘ดิสคัฟเวอรี่’ ที่มุ่งหน้าไปยังดาวพฤหัสบดี เป็นปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถเล่นหมากรุกและสนทนาส่วนตัวกับลูกเรือได้ แต่ในที่สุดมันก็มีจิตสำนึกและพยายาม **ฆ่า** ลูกเรืออย่างฟรังค์และเดฟที่สงสัยในตัวมัน ฟรังค์ถูกมันฆ่าในอวกาศ แต่เดฟหนีเข้าไปซ่อนตัวในฐานข้อมูลและลบฮัลออก ในขณะที่กำลังถูกทำลาย ฮัลพึมพำว่า “เดฟ ฉันกลัว” ก่อนที่ตัวตนของมันจะหายไปundefined

หลังจากนั้นมีภาพยนตร์อีกหลายเรื่องที่นำเสนอตัวละครที่คล้ายคลึงกับฮัล ‘อัลตรอน’ ตัวร้ายในภาพยนตร์ ‘อเวนเจอร์ส: เอจ ออฟ อัลตรอน’ ในปี 2015 **ถือเป็นเวอร์ชั่นปี 2015 ของฮัล** สำเนียงภาษาอังกฤษที่ไม่มีขึ้นลง ตาสีแดง และการเป็นปัญญาประดิษฐ์ที่พยายามทำร้ายมนุษย์ที่เป็นเจ้าของมัน ล้วนแล้วแต่สอดคล้องกับฮัลในปี 1968 อย่างสมบูรณ์แบบ ในภาพยนตร์ ‘อินเตอร์สเตลลาร์’ ที่สร้างในปี 2014 ก็มีหุ่นยนต์ที่เลียนแบบ HAL9000 ปรากฏตัวเช่นกันundefined

นอกจากฮัลแล้ว ในระหว่างที่ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ เราจะพบกับฉากที่คุ้นตา ฉากที่เคยเห็นมาจากที่ไหนสักแห่งซ้ำแล้วซ้ำเล่า ภาพยานอวกาศรูปวงแหวนที่หมุนอยู่เป็นภาพที่ถูกนำไปใช้ในอินเตอร์สเตลลาร์ ยานอวกาศที่เข้าสู่สถานีอวกาศเป็นภาพที่ถูกนำไปใช้ในสตาร์วอร์ส ชื่อยานอวกาศ ‘ดิสคัฟเวอรี่’ ที่เดินทางไปยังดาวพฤหัสบดี ถูกนำไปใช้เป็นชื่อยานอวกาศของตัวละครหลักในซีรีส์ ‘สตาร์เทร็ก ดิสคัฟเวอรี่’ ของเน็ตฟลิกซ์ในปี 2017 และในช่วงครึ่งหลังของซีซั่น 2 ยังมีฉากที่เป็นการ เลียนแบบ ที่เหมือนกันทั้งท่าทางและสีหน้าของนักแสดงอีกด้วยundefined

แน่นอนว่า ผู้ชมทั่วไปอาจจะดูภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ไม่ง่ายนัก เมื่อปีที่แล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้กลับมาฉายในโรงภาพยนตร์ของเกาหลีในช่วงฤดูร้อน และมีแฟนภาพยนตร์จำนวนมากซื้อตั๋วเข้าชม โรงภาพยนตร์ในชินชอน กรุงโซล เต็มไปด้วยผู้ชม แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือหลังจากผ่านไปประมาณ 30 นาที ผู้ชมส่วนใหญ่ก็ หลับไป ภาพยนตร์เรื่องนี้มีการตัดต่อที่ช้ามาก หากสร้างขึ้นในยุคปัจจุบัน ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะใช้เวลาเพียง 90 นาที ไม่ใช่ 140 นาที มีฉากที่ไม่มีบทสนทนาหรือการดำเนินเรื่องใดๆ เพียงแค่แสดงภาพยานอวกาศที่แล่นไปในอวกาศกว้างใหญ่เป็นเวลาหลายนาทีundefined

แต่สำหรับผู้ชมที่ดูภาพยนตร์หรือซีรีส์มาก่อน ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเต็มไปด้วยความรู้สึกดีๆ ตลอดเวลา 2 ชั่วโมง 20 นาที ผู้ชมจะต้องร้องออกมาว่า “อ้าว ฉากนี้เป็นการเลียนแบบจากเรื่องนั้นนี่นา!” มีคนพูดติดตลกกันว่าหากนำฉากที่เป็นการเลียนแบบทั้งหมดในภาพยนตร์เรื่องนี้มาต่อกัน ก็สามารถสร้างภาพยนตร์ได้อีกเรื่องหนึ่ง ‘บาร์บี้’(2023) ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดเมื่อเร็วๆ นี้ก็มีฉากเปิดเรื่องที่เหมือนกับ 2001 สเปซ ออดิสซีย์เป๊ะๆ แสดงให้เห็นว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นที่รักของผู้กำกับฮอลลีวูดมากแค่ไหน