ซีรีส์ไวกิ้งที่ Netflix ชื่นชอบ

Netflix ชอบไวกิ้ง การฟื้นคืนชีพซีรีส์ที่เกือบจะจบลงแล้วให้กลายเป็น Netflix Original เป็นเรื่องปกติ และยังมีผลงานบางส่วนที่เริ่มต้นเป็น Netflix Original ตั้งแต่ซีซันแรกเลยด้วย แม้ว่าจะมีความแตกต่างเล็กน้อยในแต่ละประเทศ แต่หากคุณค้นหาคำว่า “ไวกิ้ง” ใน Netflix คุณจะพบกับซีรีส์และภาพยนตร์มากมาย ในบรรดาผลงานเหล่านั้น ไวกิ้งส์ (Vikings) (2013-2020) และ ราชอาณาจักรสุดท้าย (The Last Kingdom) (2015-2022) ได้รับความนิยมจากผู้ชมมากที่สุด**

‘ไวกิ้งส์’ ที่ออกอากาศทาง History Channel และสตรีมมิ่งบน Netflix เริ่มต้นจากเรื่องราวของ ‘ราชนิก ราฟนล็อค’ ไวกิ้งในช่วงกลางศตวรรษที่ 9 ที่สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะไวกิ้ง และจบลงด้วยการที่ลูกชายของเขาพ่ายแพ้ในยุทธการเอดิงตัน ประเทศอังกฤษ ราชนิก รับบทโดย ทราวิส ฟิมเมล (Travis Fimmel) เป็นทั้งนักรบผู้โหดเหี้ยมและมีจิตใจโรแมนติกที่อยากเห็นโลกใบใหม่ เขาเดินทางผจญภัยไปทั่วอังกฤษและฝรั่งเศส พบเจอกับการต่อสู้และแผนการมากมาย

เสน่ห์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของซีรีส์นี้คือความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากการพบกันของผู้คนจากภูมิหลังทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ไวกิ้งนับถือเทพเจ้าแห่งนอร์ส เช่น โอดินและธอร์ ในขณะที่อังกฤษและฝรั่งเศสได้นับถือศาสนาคริสต์มานานแล้ว ในเรื่องราว แอสเซิลสแตน (รับบทโดย จอร์จ เบลากเดน) ซึ่งเดิมเป็นพระในโบสถ์ รู้สึกหลงใหลในเทพเจ้าแห่งนอร์ส ในทางกลับกัน ราชนิกก็รู้สึกสนใจในศาสนาคริสต์** ไวกิ้งบางคน เช่น ฟล็อคกี (รับบทโดย กุสตาฟ สการ์สการ์ด) เชื่อว่าศาสนาคริสต์เป็นศาสนาปลอมและถือว่าการฆ่าคริสเตียนเป็นเกียรติ โรลโล ไวกิ้งอีกคนหนึ่งได้เปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์เพื่อสร้างพันธมิตรกับชาวฝรั่งเศส

ไวกิ้งส์ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2013 และออกอากาศทั้งหมด 6 ซีซัน รวม 90 ตอน จนถึงปี 2020 ในปี 2021 Netflix ได้เปิดตัวซีซันแรกของ ‘ไวกิ้งส์ วัลฮัลลา’ ซีรีส์ภาคต่อที่เล่าเรื่องราว 100 ปีหลังจากตอนจบของ ‘ไวกิ้งส์’ ในฐานะ Netflix Original ซีรีส์ ไวกิ้งส์ วัลฮัลลา ซีซันที่ 3 มีกำหนดเปิดตัวในปี 2024**

ราชอาณาจักรสุดท้าย เริ่มออกอากาศทาง BBC ของอังกฤษในปี 2015 ราชนิก ราฟนล็อค ตัวเอกของซีรีส์ ‘ไวกิ้งส์’ ถูกสังหารโดยกษัตริย์อัลลาแห่งนอร์ธัมเบอร์แลนด์ ประเทศอังกฤษ ลูกชายของราชนิกต่างก็ร้องขอการแก้แค้นและรวบรวมนักรบจากนอร์เวย์ทั้งหมดเพื่อจัดตั้งกองทัพบุกอังกฤษที่เรียกว่า ‘กองทัพคนต่างศาสนา’**

ตัวเอกของซีรีส์นี้คือ ‘อูทเร็ด’ (รับบทโดย อเล็กซานเดอร์ ดรายมอน) ซึ่งเป็นเด็กชายอายุประมาณ 10 ขวบในช่วงเวลาที่ ‘กองทัพคนต่างศาสนา’ บุกอังกฤษ เขาเป็นชนชั้นสูงของปราสาทเบฟานเบิร์ก แต่ถูกไวกิ้งลักพาตัวไประหว่างสงคราม ‘ราชนิก’ หัวหน้าเผ่าไวกิ้ง ได้เลี้ยงดูอูทเร็ดเหมือนลูกของตัวเอง และอูทเร็ดก็ได้กลายเป็นหนึ่งในพวกเขาทางวัฒนธรรม

แต่เมื่อราชนิกผู้เลี้ยงดูเขาถูกสังหาร อูทเร็ดก็กลายเป็นผู้ต้องสงสัย เขาถูกกล่าวหาว่าฆ่าคนและกลับไปยังบ้านเกิดของเขาที่เบฟานเบิร์ก แต่ลุงของเขาไม่ยินดีต้อนรับอูทเร็ดที่อ้างสิทธิ์ในปราสาท ทางเลือกเดียวที่เหลือสำหรับอูทเร็ดคือการซื่อสัตย์ต่อ ‘ราชอาณาจักรสุดท้าย’ คือ เวสเซ็กซ์ ซึ่งยังไม่ถูกไวกิ้งยึดครอง

กษัตริย์อัลเฟรดแห่งเวสเซ็กซ์ สัญญาว่าจะมอบที่ดินและตำแหน่งให้แก่เขาหากช่วยหยุดยั้งการรุกรานของไวกิ้ง อูทเร็ดช่วยกษัตริย์อัลเฟรดต่อสู้กับไวกิ้ง แต่เขาก็ต้องเผชิญกับความขัดแย้งภายในใจระหว่างตัวตนสองด้านของเขา คือ ชาวแองโกล-แซกซอนและไวกิ้ง

เมื่อเปรียบเทียบกับไวกิ้งส์ (2013-2020) แล้ว ซีรีส์นี้สนุกมาก เนื่องจากซีรีส์นี้ผลิตโดย BBC สถานีโทรทัศน์ของอังกฤษ 2 ซีซันแรก เรื่องราวจึงดำเนินไปในอังกฤษเป็นหลัก แม้ว่าบ้านเกิดของไวกิ้งอาจเป็นนอร์เวย์และเดนมาร์ก แต่ฉากหลังของเรื่องราวจะอยู่ในเกาะบริเตนเสมอ และ ‘ไวกิ้งส์’ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการผจญภัยและการปล้นสะดมของไวกิ้งไปทั่วโลก ในขณะที่ ‘ราชอาณาจักรสุดท้าย’ เน้นไปที่กระบวนการผสมผสานระหว่างแองโกล-แซกซอนและเดน (ไวกิ้ง)**

อีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจคือ ไวกิ้งส์และราชอาณาจักรสุดท้ายนำเสนอเหตุการณ์และตัวละครเดียวกันในรูปแบบที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ‘อูบา’ ลูกชายของราชนิกในไวกิ้งส์ ก็ปรากฏตัวในราชอาณาจักรสุดท้ายและเกิดความขัดแย้งกับอูทเร็ด ‘อูบา’ ในไวกิ้งส์ (รับบทโดย จอร์แดน แพทริก สมิธ) ถูกวาดภาพเป็นตัวละครโรแมนติกที่อยากเห็นโลกใบใหม่เช่นเดียวกับพ่อของเขา แต่ ‘อูบา’ ในราชอาณาจักรสุดท้าย (รับบทโดย รูน เทมเต) เน้นไปที่ภาพลักษณ์ของนักรบผู้โหดเหี้ยม**

ราชอาณาจักรสุดท้ายได้กลายเป็น Netflix Original ตั้งแต่ซีซันที่ 3 และได้รับความนิยมอย่างมากเช่นเดียวกับไวกิ้งส์ โดยเปิดตัวไปแล้ว 5 ซีซัน และ ภาพยนตร์ ‘เจ็ดกษัตริย์ต้องตาย’ (Seven Kings Must Die) ที่เล่าเรื่องราวการเดินทางครั้งสุดท้ายของอูทเร็ด ก็ได้เปิดตัวในฐานะภาพยนตร์ Netflix Original ในปี 2023