เหตุผลที่ควรเล่นเดสทินี 2 ในตอนนี้ แม้ว่าภาคเสริมจะเลื่อนออกไป

ซีรีส์ ‘เดสทินี’ ที่เปิดตัวในปี 2014 ได้รับความรักอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปีนี้เป็นเวลา 10 ปีแล้ว เดสทินี 2 (DESTINY2, ในประเทศไทยเรียกว่า ‘เดสทินี การ์เดียนส์’) ที่เปิดตัวในปี 2017 ได้ขึ้นแท่นเกมที่ขายดีที่สุดในปีนั้น และส่วนขยาย ‘ราชินีแม่มด’ (Witch Queen) ที่เปิดตัวในปี 2022 ก็มียอดสั่งจองล่วงหน้ามากกว่า 2 ล้านชุด

ซีรีส์เดสทินี กำลังเผชิญกับวิกฤตในตอนนี้ เดสทินีได้คงรูปแบบการเปิดตัวส่วนขยายปีละครั้ง และเติมเต็มช่วงว่างระหว่างนั้นด้วยการอัปเดตขนาดเล็กที่เรียกว่า ‘ซีซั่น’ แต่ส่วนขยาย ‘รูปร่างสุดท้าย’ (The Final Shape) ที่ควรจะเปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ได้เลื่อนออกไปเป็นเดือนมิถุนายน เนื้อหาของซีซั่นที่เติมเต็มช่วงว่างระหว่างส่วนขยายก็หมดไปแล้ว นอกจากนี้ ส่วนขยาย ‘การล่มสลายแห่งแสง’ (Lightfall) ที่เปิดตัวในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้วก็ไม่ได้รับการตอบรับที่ดีนัก

ในสถานการณ์เช่นนี้ จำนวนผู้เล่นพร้อมกันสูงสุดบน Steam ของเดสทินี 2 ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เปิดตัวบน PC เดสทินี 2 ที่เคยทำยอดผู้เล่นพร้อมกันบน Steam ได้ถึง 300,000 คนในเดือนมีนาคมปีที่แล้ว ปัจจุบันเหลือเพียงหลักหมื่น Bungie พยายามรักษาจำนวนผู้เล่นไว้จนกว่ารูปร่างสุดท้ายจะเปิดตัว จึงได้นำมาตรการต่างๆ ออกมา

ฝุ่นส่องแสง (Bright Dust) ฟรีทุกสัปดาห์

ในเกมเดสทินี ฝุ่นส่องแสง (Brught Dust) เป็นสกุลเงินในเกมที่ใช้ซื้อของตกแต่งแบบเสียเงิน ร้านค้าในเกมมักจะขายของตกแต่งที่สามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ของอาวุธและชุดเกราะได้ด้วยฝุ่นส่องแสง

สินค้าที่สามารถซื้อได้ด้วยฝุ่นส่องแสงจะเปลี่ยนไปทุกสัปดาห์ และไม่มีใครรู้ว่าจะมีอะไรออกมาบ้าง ดังนั้นผู้เล่นจำนวนมากจึงพยายามสะสมฝุ่นส่องแสง แต่การหาฝุ่นส่องแสงนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากการทำภารกิจ ‘งานหนัก’ (Grinding) ที่ NPC ต่างๆ มอบให้ในแต่ละสัปดาห์จะให้ฝุ่นส่องแสงเพียงเล็กน้อย

Bungie จะแจกฝุ่นส่องแสง 700 หน่วยทุกสัปดาห์ ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไปจนถึงก่อนที่รูปร่างสุดท้ายจะเปิดตัว โดยไม่ต้องทำเควสใดๆ ผู้เล่นที่ต้องการสะสมฝุ่นส่องแสงอย่าพลาดโอกาสนี้

ภารกิจ ‘ปรารถนา’ (Wish)

ภารกิจ ‘ปรารถนา’ (Wish) ที่ให้รางวัลเป็นไอเท็มหายากเมื่อทำภารกิจที่กำหนดให้เสร็จสิ้นได้เปิดให้เล่นเป็นลำดับแล้ว จริงๆ แล้วเนื้อหาของเควสนี้ค่อนข้างน่าผิดหวัง เพราะแก่นแท้ของเควสคือการเล่นเนื้อหาของส่วนขยาย ‘ฟอร์เซเคน’ (Forsaken) ที่เปิดตัวในปี 2018 อีกครั้ง

แต่ข้อดีคือให้รางวัลที่หาได้ยาก เดสทินี 2 เริ่มทำให้การหาชุดเกราะแปลกใหม่ (Exotic Armor) ใหม่ๆ ยากขึ้นเรื่อยๆ การเคลียร์ ‘เขตที่ถูกลืม’ (Lost Sector) ซึ่งเป็นดันเจี้ยนขนาดเล็กที่ซ่อนอยู่ในโลกเปิดในระดับความยากสูง ‘คนเดียว’ จะให้ชุดเกราะแปลกใหม่ในโอกาสที่น้อยมาก กระบวนการนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และถึงแม้จะทำซ้ำกี่ครั้งก็ตาม ก็อาจจะไม่ได้ชุดเกราะแปลกใหม่ที่ต้องการ

ในภารกิจปรารถนา ผู้เล่นสามารถเลือกชุดเกราะแปลกใหม่หนึ่งชุดต่อสัปดาห์ได้ นอกจากชุดเกราะแปลกใหม่แล้ว ยังสามารถเลือกอุปกรณ์ที่ดรอปจากการปล้น ‘ความปรารถนาครั้งสุดท้าย’ (Last Wish) ได้ด้วย การปล้นต้องใช้ผู้เล่น 6 คน แต่เกมนี้ไม่มีระบบจับคู่โดยอัตโนมัติ ดังนั้น หากไม่มีเพื่อนเล่นด้วย จะทำให้การหาอุปกรณ์เหล่านี้เป็นเรื่องยากมาก

ส่วนรูปร่างสุดท้ายเป็นส่วนขยายที่เป็นการปิดฉากเรื่องราวของซีรีส์เดสทินีที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2014 ไม่ใช่จุดจบของเดสทินี แต่ดูเหมือนว่าความขัดแย้งที่เริ่มต้นขึ้นในปี 2014 จะได้รับการคลี่คลายเป็นส่วนใหญ่ การเตรียมพร้อมสำหรับรูปร่างสุดท้ายด้วยฝุ่นส่องแสงและชุดเกราะแปลกใหม่ต่างๆ ก็เป็นเรื่องที่ดีเช่นกัน